วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
Preview ขำๆ:Shining Hearts: Shiawase no Pan
ชื่อภาษาอังกฤษ Shining Hearts: Bread of Happiness อนิเมะที่ดัดแปลงจาก Shining Heartsที่วางจำหน่ายภาค PSP ภาษาญี่ปุ่น ไปเมื่อปลายปี 2010 ก่อนหน้านี้เคยมีภาค Shining Tears X Windของทาง Studio Deen ในช่วงปี 2007 ที่ดัดแปลงจากภาคเกมเหมือนกัน แต่ดูๆ แล้วภาคนี้น่าจะใช้คาแร็กเตอร์ใกล้เคียงกับภาคเกมมากกว่า รวมถึงด้านเนื้อเรื่อง
(เรื่องย่อภาคเกม) วันหนึ่งหลังจากพายุในทะเลสงบลง "คางุยะ" ได้ลอยมาที่ชายหาดของเกาะ Wyndaria เธอสูญเสียความทรงจำและอารมณ์ เธอได้พบกับ "ริค" นักดาบที่ทำงานที่ร้านขนมปังบนเกาะแห่งนี้ หลังจากนั้น เขาก็ได้พบว่าพวกโจรสลัดที่มาบนเกาะที่แสนสงบสุขนี้ กำลังตามหาศิลาวิญญาณที่สวมบนคอของคางุยะ ทั้งริคและพรรคพวกจึงตัดสินใจที่จะนำพาความสงบสุขมาที่เกาะ และช่วยคางุยะหาความทรงจำกับอารมณ์ที่เธอสูญเสียไป
ดูจากคาแร็กเตอร์น่าจะยังอิงกับภาคเกม PSP เป็นหลัก แต่จะทำออกมาดีแค่ไหนนั้น คงต้องดูกันต่อไปครับ ปัจจุึบันตอนที่ผมเขียนนี้ ก็ยังไม่มีการเปิดเผย Trailer อนิเมะ มีเพียงอนิเมชั่นที่เป็นฉากเปิดของภาคเกม PSP เท่านั้น
= = ปัจจุบัน ฉายอยู่ทางช่อง MBS ซึ่งออกมาแล้ว สอง ตอน = =
Credit Article:http://www.online-station.net/entertainment/cartoon/151
วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555
ทำไม Facebook ถึงต้องซื้อ Instagram
ข่าว Facebook ซื้อ Instagram แล้ว เมื่อคืนนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของใครหลายๆ คน (ผมด้วย) และมีปฏิกริยาที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือคัดค้าน ดีลนี้ก็คงเดินหน้าต่อไปไม่มีย้อนกลับ
การซื้อกิจการครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าพิจารณาดีๆ แล้วมันคือ "social network ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ซื้อกิจการ "social network บนมือถือรายใหญ่ของโลก" (พูดง่ายๆ คือเบอร์ 1 ซื้อเบอร์ 1 ในอีกวงการที่ใกล้เคียงกัน) และสะท้อนให้เห็นความเคลื่อนไหว ยุทธศาสตร์ กลยุทธที่น่าสนใจมากมาย
ในโอกาสนี้ก็ขอลองเขียนบทวิเคราะห์มุมมองของผมไว้สักหน่อยนะครับ
ทำไม Facebook ต้องซื้อ Instagram
คำถามที่สำคัญที่สุดในรอบนี้คือ "ทำไม Facebook ถึงตัดสินใจซื้อ Instagram"
ผมคิดว่าคำตอบคือ Instagram กำลังคุกคาม Facebook อย่างเงียบๆ การซื้อครั้งนี้ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ทำลายว่าที่คู่แข่งในอนาคตตั้งแต่ยังเยาว์วัย
Instagram ไม่ใช่บริการชนิดเดียวกับ Facebook ที่มาชนกันตรงๆ (ไม่เหมือน Google+) แต่มันมีส่วนที่ทับซ้อนกับ Facebook อยู่ไม่น้อย ได้แก่
- การแชร์รูปภาพ (ซึ่งเป็นจุดขายหลักของ Facebook มาตั้งแต่แรก)
- มีความเป็นโซเชียลในตัวเอง ติดตามเพื่อนในเครือข่ายได้ คอมเมนต์กันได้ ฯลฯ
Facebook เป็นเครือข่ายสังคมที่เกิดมาบนโลกของเดสก์ท็อป และเอาชนะคู่แข่งรายอื่นๆ (เช่น Myspace) มาได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่พอโลกเข้าสู่ยุคมือถือและสมาร์ทโฟน Facebook เองก็เริ่มปรับตัวไม่ทัน (ดูแอพของ Facebook สิครับ) และกลายเป็นช่องว่างให้เครือข่ายสังคมแบบ Instagram เกิดขึ้นมาได้
สมัยที่ทุกคนยังใช้แค่คอมพิวเตอร์ Facebook ยังรักษาสถานภาพของตัวเองไว้ได้สบาย เราออกไปเที่ยว ถ่ายภาพ กลับบ้านมาใช้คอม อัพโหลดรูปลง Facebook แล้วแท็กเพื่อนๆ คอมเมนต์กันเป็นที่สนุกสนาน Facebook ให้ประสบการณ์ตรงนี้ได้ดีมาก และถือเป็นนวัตกรรมของการแชร์รูปถ่ายในสมัยนั้น
แต่ในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟน ถ่ายรูปแล้วกดแชร์จากมือถือได้ตรงนั้นเลย คอมเมนต์กันเองได้จากแอพ Instagram เลย (ถึงแม้จะแชร์ลง Facebook ได้ด้วย) จะเห็นว่า Facebook เริ่มถูกตัดตอนออกไปจากวัฎจักรของผู้คนเสียแล้ว
Facebook เองก็คงรู้เรื่องนี้ดี แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องวิธีคิดขององค์กรที่โตมากับเดสก์ท็อป ทำให้ปรับตัวช้า (มาก) และทุกวันนี้แอพ Facebook ก็ยังมีความสามารถจำกัดอยู่มากเมื่อเทียบกับ Instagram (จริงๆ แล้วเครือข่ายสังคมลักษณะคล้ายๆ กันอย่าง Flickr เองก็ปรับตัวช้าเหมือนกัน น่าจะด้วยเหตุผลเดียวกัน) ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป Instagram โตขึ้นเรื่อยๆ มันจะเริ่มใหญ่พอมีอำนาจต่อรองกับ Facebook อย่างแน่นอน
ทางแก้ก็ตรงไปตรงมา สู้ไม่ได้ก็ซื้อเสีย ถ้าไม่ขายก็ขึ้นราคาไปเรื่อยๆ ซึ่งสถานะทางการเงินตอนนี้ของ Facebook เงินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ (ไม่ใช่เงินสดทั้งหมดด้วยซ้ำ) ก็ไม่ได้ถือว่าเกินเลยไปนัก แลกกับการรักษาสภาวะการนำของตัวเองในโลกโซเชียลต่อไป
Instagram ต่อจากนี้ไป
Mark Zuckerberg พูดไว้ชัดเจนว่าจะไม่แตะแบรนด์ Instagram และยังคงนโยบายเดิมๆ ของ Instagram ทั้งเรื่องกลุ่มเพื่อนเดิมๆ และความสามารถในการแชร์ไปยังเครือข่ายสังคมอื่นๆ
ตรงนี้ Zuckerberg ถือว่าฉลาด เพราะป้องกันคนหนีจาก Instagram ไปบริการอื่นได้เยอะ (แม้ว่าจะมีบ้างตามข่าวที่ออกมา) เพราะในแง่การใช้งานแล้ว Instagram ยังเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากที่ผู้ใช้เดิมคาดหวังว่าควรมี ตื่นมาเช้าวันพรุ่งนี้ Instagram ก็ยังหน้าตาไม่เปลี่ยนแปลง
การที่ Instagram ยังคงฟีเจอร์เดิมไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหายต่อ Facebook เพราะผู้ใช้ Instagram เกือบทุกคนน่าจะมี Facebook อยู่แล้ว และก็เชื่อมต่อเครือข่ายทั้งสองเข้ากันอยู่แล้ว การบีบให้ผู้ใช้ Instagram มาใช้ Facebook คงไม่ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้ให้กับ Facebook อย่างมีนัยยะสำคัญนัก แถมยังทำให้คนต่อต้านเปล่าๆ
ในเบื้องต้นแล้ว ทั้งสองทีมคงแยกกันพัฒนาบริการของตัวเองขนานกันไปอีกระยะหนึ่ง อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องผิดธรรมเนียมของ Facebook ที่ปกติจะซื้อบริษัทเพื่อเอาคนมากกว่าเอาฐานลูกค้า (ดูอย่างกรณีของ Friendfeed หรือ Gowalla ก็ได้)
ผมคิดว่าในอนาคตอันใกล้อีกสัก 1 ปีข้างหน้า Instagram น่าจะเดินหน้าต่อด้วยแผนเดิมของตัวเอง และมีอิสระในการบริการงานพอสมควร
Facebook + Instagram
สิ่งที่น่าจับตาคือ Facebook จะนำจุดแข็งของ Instagram มาผนวกกับบริการของตัวเองได้อย่างไร
อันนี้บอกตามตรงว่าผมก็ยังนึกไม่ค่อยออก แบบง่ายที่สุดที่เป็นไปได้คือ ความสามารถด้านการถ่ายภาพและใส่ฟิลเตอร์ของ Instagram จะค่อยๆ ทยอยเข้ามาอยู่ในแอพ Facebook บนมือถือด้วย แต่ในระยะยาวแล้ว คิดว่ากำลังคนของ Instagram ที่เชี่ยวชาญการทำแอพมือถือ น่าจะเข้ามาช่วยพัฒนาส่วนอื่นๆ ของแอพ Facebook นอกเหนือจากฟีเจอร์ถ่ายภาพด้วย
เราคงต้องใช้เวลาเฝ้าดูกันอีกสักพักหนึ่งว่า Facebook จะสามารถใช้ประโยชน์จาก Instagram ได้มากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ทีมงาน Instagram คงกลายเป็นกรณีศึกษาของการสร้างแอพที่ประสบความสำเร็จทั้งแง่ผู้ใช้และความร่ำรวยแก่นักพัฒนาทั่วโลก
และอีกสัก 5 ปีข้างหน้า ถ้าเราย้อนมามองดูเหตุการณ์นี้แล้ว ก็น่าจะสรุปได้ว่า Mark Zuckerberg มีวิญญาณเพชรฆาตที่เฉียบคมมากทีเดียว
Credit Article:http://www.blognone.com/node/31497
ระวังแชร์ดูดวงบน Facebook อาจถูกล้วงข้อมูลส่วนตัว
คูณรู้หรือไม่ แอพทำนายชื่อ ทำนายดวง ใบ้หวย หาคู่ หน้าเหมือนใคร ทำนาย กรุ๊ปเลือด และอีกมากมาย ที่เล่นกับการหาคู่ ความโสด ความรัก ดูดวง ทราบหรือไม่ว่า แอพเหล่านี้ ที่หลายๆคนกำลังฮิตโพสหน้า wall นั้นกำลังล้วงข้อมูลส่วนตัวของคุณอยู่
คนทำแอพสามารถ
- เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราได้ทุกอย่าง ทุกเวลา
- สามารถโพสต์ข้อความ ส่งข้อความต่างๆในนาม account เราได้เลย
- เรามีสิทธิ์ โดน “แอบอ้าง” ได้ ง่ายๆเลย
เพียงแค่เรากด “Allow” ก็เหมือนเซ็นหนังสือมอบอำนาจ ให้แอพนี้ ทำทุกอย่างได้เท่ากับเรา เจ้าของ account
เจอแอพพวกนี้ ก่อนกด Allow คิดให้ดีๆนะครับว่าไว้ใจได้รึเปล่าถ้าพบพฤติกรรมแปลกๆ ให้กด “Report Spam” ไปเลย ก่อนที่ข้อมูลส่วนตัวทั้งหลาย จะถูกดูดไปเก็บในฐานข้อมูลของคนอื่น และช่วยให้คนอื่นไม่โดนครับ
อ่านเต็มๆที่นี่ครับ >> https://www.facebook.com/note.php?note_id=352759154768092
อ่านเต็มๆที่นี่ครับ >> https://www.facebook.com/note.php?note_id=352759154768092
*Note:*
- “Post on my behalf” อาจทำให้เกิดกรณีแอบอ้างได้ครับ เพราะแอพมีสิทธิ์โพสต์ข้อความในนามเราเลย
- “Access my data any time” เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราเมื่อไหร่ก็ได้เท่าที่ต้องการ
- “Access my basic information” และ “Access my profile information” ข้อมูลส่วนตัวเราทั้งชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่ Email เบอร์โทร และอื่นๆ จะถูกแอพนี้ดึงไปใช้ได้ จะมีช่องว่างให้คนทำแอพ Copy ข้อมูลเหล่านี้ไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลและขายต่อไปให้กับพวก Spammer อื่นๆได้
- “Access my data any time” เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราเมื่อไหร่ก็ได้เท่าที่ต้องการ
- “Access my basic information” และ “Access my profile information” ข้อมูลส่วนตัวเราทั้งชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ที่อยู่ Email เบอร์โทร และอื่นๆ จะถูกแอพนี้ดึงไปใช้ได้ จะมีช่องว่างให้คนทำแอพ Copy ข้อมูลเหล่านี้ไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลและขายต่อไปให้กับพวก Spammer อื่นๆได้
*ทางแก้*
1. ถ้ากด Allow ไปแล้ว เล่นไปแล้ว ข้อมูลของเราจะถูกดึงไปใช้ทันที และอาจจะถูก Copy ไว้อีกชุดเก็บที่ไหนก็ได้ เราทำอะไรไม่ได้แล้วครับ
2. เข้าไปใน ลิงค์ https://www.facebook.com/settings/?tab=applications และ ลบแอพ เหล่านี้ ออกไปจากการเชื่อมต่อกับตัวเรา
3. เปลี่ยนรหัสผ่านครับ
2. เข้าไปใน ลิงค์ https://www.facebook.com/settings/?tab=applications และ ลบแอพ เหล่านี้ ออกไปจากการเชื่อมต่อกับตัวเรา
3. เปลี่ยนรหัสผ่านครับ
แม้ข้อมูลส่วนตัวอาจจะถูกเอาไปแล้ว แต่เมื่อเราลบแอพออกไปและเปลี่ยนรหัสผ่าน account เราจะไม่สามารถถูกแอพเหล่านี้เข้าถึงได้อีกครับ
วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555
10 อันดับอนิเมะที่แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นอยากให้มีซีซั่น 3
ก่อนหน้านี้พวกเราคงจะเคยเห็นกันการจัดอันดับของ “อนิเมะที่อยากให้มีภาคต่อ” กันมาบ้างแล้ว แต่มาครั้งนี้ก็มีการจัดอันดับอีกอันที่เป็นการจัดอันดับอนิเมะภาคต่อของภาคต่อ หรือก็คืออยากให้มีซีซั่น 3 นั่นเอง ซึ่งก็เป็นการตั้งคำถามจากแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นในเว็บไซต Anime One กันอย่างเคย ไปดูกันเลยดีกว่าเน้อ!
อันดับ 10 Bakuman
อันดับ 9 Kami nomi zo Shiru Sekai
อันดับ 8 Sora no Otoshimono
อันดับ 7 Strike Witches
อันดับ 6 Baka to Test to Shoukanjuu
อันดับ 5 To Aru Majutsu no Index
อันดับ 4 K-ON!
อันดับ 3 Gintama
อันดับ 2 Suzumiya Haruhi no Yuutsu
อันดับ 1 Working!!
ส่วนนี่ก็อันดับที่ 11 – 25 ล่ะ
11. Hayate no Gotoku!
12. Shinryaku!? Ikamusume
13. Sengoku Basara
14. Kimi ni Todoke
15. Kuroshitsuji
16. Spice and Wolf
17. Tantei Opera Milky Holmes
18. Maria Holic
19. Tegami Bachi
20. Ookiku Furikabutte
21. To Love-Ru
22. Yuru Yuri
23. Mitsudomoe
24. Seikon no Qwaser
25. Sekirei
Credit Article/Pictures:http://akibatan.com/2012/04/anime-you-most-wish-would-get-a-3rd-season/
วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555
Top 10 Anime Song March 2012
สถิติจัดทำโดย The TOWER RECORDS Shinjuku store ในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นสถิติที่ทำในระหว่างวันที่ 19 - 25 มีนาคม 2012 ซึ่งจะจัดทำทุกๆสัปดาห์ มาเริ่มกีนที่เพลงแรกกันเลย
5 (new). "Strike Witches: The movie Soundtrack"
Credit Article:http://www.crunchyroll.com/anime-news/2012/03/29/tower-records-shinjuku-weekly-anime-song-top-10-march-19-25
1 (new). "HEAT"
May'n (3rd original album)
2 (1). "Tell Your World EP"
livetune feat. Hatsune Miku (Google Chrome CM song)
3 (new). "Scarlet Emblem"
Hitomi Harada (3rd single)
4 (new). "Celestial Diva"
Minori Chihara (14th single/game Chaos Rigs II theme)
5 (new). "Strike Witches: The movie Soundtrack"
6 (2). "MOGRA MIX VOL.1 mixed by DJ WILDPARTY"
DJ WILDPARTY
7 (3). "The Everlasting Guilty Crown"
EGOIST (Guilty Crown 2nd OP)
8 (4). "Kokuhaku/Bokura no Ashioto"
by supercell (Guilty Crown 2nd ED)
9 (new). "Piano Collections NieR Gestalt & Replicant"
(game music piano covers)
(game music piano covers)
(อันนี้ตามดูเพิ่มเติมได้ใน YouTube)
10. "Lover"S"SMILE"
LiSA (1st full original album)
"oath sign"
Credit Article:http://www.crunchyroll.com/anime-news/2012/03/29/tower-records-shinjuku-weekly-anime-song-top-10-march-19-25
วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555
10 ข้อที่ชาวโอตาคุต่างชาติยากที่จะเข้าใจเกี่ยวกับการ์ตูนอนิเมะญี่ปุ่น
เคย สงสัยกันมั้ยว่าทำไมในการ์ตูนอนิเมะถึงต้องมีฉากแบบนั้น ตัวละครทำไมต้องมีท่าทางแบบนี้ มีแฟนๆ โอตาคุชาวจีนต่างพากันสงสัยในหลายๆ อย่างเกี่ยวกับอนิเมะญี่ปุ่น แล้วแฟนๆ อนิเมะในไทยเห็นด้วยกับ 10 ข้อเกี่ยวกับข้อสงสัยดังนี้ด้วยหรือเปล่า?
1.ตัวละครหลักมักจะมีที่นั่งริมหน้าต่างด้วยเหตุผลบางอย่าง
2.หลายๆ ฉากในอนิเมะ มักจะมีสายพันไขว้กันที่ เสาโทรศัพท์ และ สายไฟฟ้า อยู่ด้วย
3.โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบฝาพับ
4.ตัวละครมักจะทานราเมนแทนซูชิ
5.ตัวละครในอนิเมะมักจะทำท่าทางดึงเปลือกตาลงมาข้างหนึ่งพร้อมกับแล่บลิ้นออกมา
6.ตัวละครที่เป็นคุณหนูฐานะร่ำรวยมักจะมีผมสีบลอนด์
7.เมื่อตัวละครผู้ชายได้ใกล้ชิดกับสาวๆ น่ารักมักจะมีเลือดกำเดาไหลออกมา
8.ตัว ละครที่เป็นหัวขโมยมักจะโพกผ้าไว้บนหัวและผูกปลายผ้าไว้ที่ใต้จมูกแต่ใบหน้า ของเจ้าหัวขโมยก็ยังคงชัดเจนอยู่ดี (แล้วจะอำพลางเพื่อ ?)
9.ชาวเยอรมันมักจะถูกกำหนดให้เป็นตัวละครที่เป็นคนดี
10.ทำไมต้องถ่ายทอดเรื่องราวอย่างใดอย่างหนึ่งในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น!
Credti Article/Pictures:http://www.anime.fanthai.com/33419.html
Ashton Kutcher เตรียมรับบท Steve Jobs ในภาพยนตร์แนวอินดี้เรื่อง "Jobs"
ซ้าย Ashton Kutcher อายุ 34 ปี, ขวาภาพ Steve Jobs ตอนอายุ 21 ปี ตอนที่เขาเริ่มก่อตั้ง Apple
นักแสดงหนุ่ม แอชตัน คุตเชอร์ เตรียมกลับมารับบทบาทเป็น สตีฟ จอบส์ ผู้เปี่ยมวิสัยทัศน์ ในภาพยนตร์แนวอินดี้เรื่องหนึ่ งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับช่วงชีวิ ตในอดีตของ จอบส์ และการริเริ่มก่อตั้งบริษัท แอพเปิล ซึ่งการถ่ายทำจะเริ่มในเดื อนพฤษภาคมนี้ โดยมี โจชัว มายเคิล สเติร์น เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ถ่ายทอดชีวิตของ สตีฟ จอบส์ จากแง่มุมชีวิตหนุ่มฮิปปี้ผู้ แข็งกร้าว สู่การเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท แอพเปิล
ด้วยจังหวะเวลาที่พอดีกับช่วง April Fool’s Day และด้วยเหตุที่ คุตเชอร์ ชอบเล่นตลกขบขันอยู่เสมอ ทำให้ผู้คนต่างเข้าใจว่าข่ าวกรณีที่ คุตเชอร์ จะรับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเพียงการล้อเล่น แต่ในที่สุดก็มีตัวแทนจาก คุตเชอร์ เองมาให้การยืนยันเรื่องนี้แล้ วทาง CNN ในวันจันทร์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจฟ สไนเดอร์ นักเขียนบทความบนทวิตเตอร์ได้ เผยแพร่ข่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เรื่องราวจะเกี่ยวกับชีวิตของ สตีฟ จอบส์ และ สตีฟ โวส์นิแอค ตั้งแต่ช่วงที่พวกเขาก่อตั้งบริ ษัทแอพเปิล ในปี ค.ศ. 1976 จวบจนกระทั่งช่วงเวลาที่ จอบส์ หวนคืนสู่ แอพเปิล อีกครั้งในปลายทศวรรษ 90 หลังจากเขาถูกบีบให้ลาออกใน
ช่ วงเวลาก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม เนื้อหาจะไม่รวมถึงชีวิตในช่ วงหลัง ๆ ของ จอบส์ แต่อย่างใด
ช่
หลังจากที่ต้องล้มเลิกชีวิ ตการเรียนในมหาวิทยาลัย สตีฟ จอบส์ ก็ได้เลือกเดินทางท่องเที่ ยวหาประสบการณ์ชีวิตในประเทศอิ นเดีย จากนั้นก็ได้ก่อตั้งบริษัท แอพเปิล ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำให้ เขากลายเป็นนักธุรกิจผู้ได้รั บการกล่าวขวัญมากที่สุดคนหนึ่ งของโลก เขาเสียชีวิตในเดือนตุลาคมที่ผ่ านมา หลังจากต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง
ขณะที่ แอชตัน คุตเชอร์ วัย 34 ปี ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงฮอลลีวู ดผู้ชื่นชอบเทคโนโลยีเป็นชีวิ ตจิตใจ จากการที่เขาใช้ทวีตเตอร์อย่ างเอาจริงเอาจัง และยังเป็นผู้ใช้รายแรก ๆ มีผู้ติดตามทวีตเตอร์ ของเขามากถึงสิบล้านคน ยิ่งไปกว่านั้นคุตเชอร์ ยังลงทุนในแหล่งเทคโนโลยีอย่าง ซิลิคอน แวลลี่ อีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องเตรี ยมตัวเปรียบมวยกับคู่แข่งอย่าง โซนี พิคเจอส์ ซึ่งกำลังทำภาพยนตร์ชีวประวัติ ของ สตีฟ จอบส์ เช่นเดียวกัน โดยทางฝั่ง โซนี พิคเจอส์ นั้นยึดเนื้อหาตามหนังสือยอดนิ ยมที่เขียนโดย วอลเตอร์ อายแซคซั่น โดยแหล่งข่าวจาก CNN ระบุว่าในภาพยนตร์จากทาง โซนี่ เรื่องนี้ ไม่พบว่ามีการระบุชื่อ คุตเชอร์ ไว้ในรายชื่อนักแสดงที่คาดว่ าจะรับบท สตีฟ จอบส์ แต่อย่างใด
Credit Article:http://news.thaiware.com/1413-Steve_Jobs_%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html
วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555
PS VITA เลเวลอัพ เพิ่ม App เล่น Facebook และ Foursquare
โซนี่ปล่อยอัพเดตใหม่ล่าสุดให้กับเครื่อง PS VITA เอาใจคนชอบเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คโดยเฉพาะ กับ App ฟรีสองตัวล่าสุด ที่จะทำให้ชาว PS VITA เล่นเว็บโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook และ Foursquare ได้ง่ายขึ้น โดยFacebook app จะทำให้ใช้ touch pad ด้านหลังในการเลื่อนหน้าจอ Facebook ได้แล้ว และยังช่วยโพสภาพจากกล้องของ PS VITA ขึ้น Facebook ได้เลย ส่วน Foursquare app ก็คล้ายๆกับคือทำให้เล่นเว็บ Foursquareด้วย PS VITA ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ก็ยังมีเฟิร์มแวร์ใหม่ 1.65 ที่มาพร้อมกันด้วย ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆดังนี้
- เพิ่มระบบเสียงเตือนหรือ notifications (เปิด/ปิด ได้) ระบบจะมีเสียงเตือนกรณีมีอะไรใหม่ๆเข้ามา
- ตั้งเวลาให้เครื่อง Auto Standby ได้ถึง 10 นาที
- Live Arena จะมีระบบนำทาง เวลาที่มีกิจกรรมใหม่ๆเข้ามา
- แก้บั๊กของเกม Unit 13 และ Dynasty Warriors Next
- เพิ่มฟังค์ชั่น caps lock เวลาพิมพ์ภาษา โดยการกด shift 2 ครั้ง
Credit Article/Pictures:http://game.sanook.com/gameupdate/snews_13863.php
Credit Pictures:http://www.google.co.th/
Anime ภาคต่อของ To Love Ru Darkness & Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai
วันนี้เราคาบข่าวดีจากงาน Anime Content Expo 2012 มาบอกสำหรับคนทำกำลังรอคอยการกับมาของน้องสาวสุดซึน จากเรื่อง Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai หรือในชื่อไทยว่า น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาด
ส่วนข่าวดีอีกเรื่องนึงของแฟนๆ การ์ตูนอภิมหาเซอร์วิสแห่งยุคนี้ To LOVE-Ru Darkness นั่นเอง!!! ซึ่งก็ได้คอนเฟิร์มจากนิติยสาร Jump Square ฉบับเดือน 5 แล้วว่าจะทำออกมาเป็น TV Series ให้ได้ดูกันยาวๆ สำหรับเรื่องนี้แค่ชื่อก็คงเข้าใจกันแล้วว่ามันจะเป็นการ์ตูนที่ดีขนาดไหน เอาเป็นว่าเรามารอคอยสองเรื่องนี้กันอย่างใจจดใจจ่อกันดีกว่า
Credit Article/Pictures:http://akibatan.com/2012/04/oreimo-new-season-and-to-love-ru-darkness-announced/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)